หลักสูตรฝึกอบรม สมองคิดบวก เพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงาน - หลักสูตร 1 วัน
(Positive Brain for Positive Thinking)

หน้าแรก / รวมหลักสูตรฝึกอบรม / หมวดทั่วไป (Other) / หลักสูตรฝึกอบรม สมองคิดบวก เพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงาน (Positive Brain for Positive Thinking)

ติดต่อสอบถาม
  084-164-2057 / 093-649-3561 (HOTLINE)
  asst.entraining@gmail.com, cocoachentraining@gmail.com

หลักการและเหตุผล
   ทัศคติเป็นสิ่งที่ทำให้เราสามารถใช้ศักยภาพของเราได้อย่างเต็มที่ แม้เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เป็นไปตามที่เราต้องการก็ตาม การมีทัศนคติเชิงบวกช่วยให้เราเห็นศักยภาพของตนเองที่มีอยู่ เพื่อสร้างมุมมองใหม่ๆ และเกิดความมั่นใจในศักยภาพของตนเองเราสามารถเลือกที่จะมองเห็นสิ่งดีๆ ในตัวเพื่อนร่วมงาน ตลอดจนข้อดีและโอกาสในงานที่ได้รับมอบหมาย
   โดยธรรมชาติสมองเราถูกออกแบบมาให้คิดลบโดยอัตโนมัติ เพื่อความอยู่รอด เพื่อความปลอดภัย เพื่อป้องกันความผิดหวังของตนเอง ถ้าเราขาดสติไม่รู้ตัว จะทำให้เรามีแนวโน้มของทัศนคติเชิงลบโดยไม่รู้ตัว
   การมีทัศนคติเชิงลบจึงทำให้เรามองเห็นตัวเองเล็กกว่าปกติ แล้วขยายความเสี่ยงและอันตรายที่อยู่รอบข้างเพื่อพยายามให้ตัวเราอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยที่คุ้นเคย ดังนั้นหากเราไม่รู้ตัว ก็จะส่งผลให้เราสูญเสียความมั่นใจในตนเอง ไม่กล้าคิด ไม่กล้าตัดสินใจ มองไม่เห็นความสามารถของตนเอง เมื่อไม่สามารถชื่นชมตนเองได้ ก็จะไม่สามารถชื่นชมคนอื่นๆ ได้เช่นกัน ทำให้เห็นแต่ข้อเสียของเพื่อนร่วมงานที่อยู่รอบตัว นำไปสู่ความรู้สึกที่ไม่ดีต่อกัน แล้วส่งผลกระทบต่อสัมพันธภาพและการทำงานเป็นทีมตามมา
   และการคิดลบจดจ่อกับปัญหาและอุปสรรคมากกว่าโอกาส งานที่ได้รับมอบหมายจึงถูกมองเป็นเรื่องยาก เป็นภาระ เป็นความเสี่ยงมากกว่าความท้าทาย จึงไม่มีแรงจูงใจที่มากพอจะหาทางพัฒนาตนเองและพัฒนางานที่ทำอยู่ ส่งผลให้เกิดการทำงานโดยไม่มีเป้าหมาย ทำงานเพียงตามหน้าที่หรือคำสั่ง และพยายามแก้ตัวเมื่อเกิดข้อผิดพลาด มากกว่าจะคิดหาทางออกอย่างสร้างสรรค์
   โดยปกติสมองเราไม่สามารถรับข้อมูลจากสิ่งแวดล้อมหรือเหตุการณ์ตรงหน้าได้ทั้งหมด เราเลือกที่จะเลือกรับข้อมูลเพียงบางส่วน และการเลือกที่จะรับข้อมูลที่เป็นเชิงบวกหรือเชิงลบในเหตุการณ์นั้น ก็ขึ้นอยู่กับทัศนคติ กรอบความคิด และความเชื่อที่เกิดจากบนฐานข้อมูลในสมองของเรา จากประสบการณ์อันเป็นข้อเท็จจริงที่เราเจอมา ทัศนคติจึงสามารถสร้างได้โดยการเปลี่ยนชุดข้อมูลที่เป็นเชิงลบ ด้วยการเลือกที่จะมองหาประสบการณ์ที่เป็นเชิงบวกให้มากขึ้น เลือกที่ที่จะคิดและรู้สึกในเชิงบวกให้บ่อยขึ้น เราก็จะสามารถเปลี่ยนทัศนคติและวงจรพฤติกรรมของเราให้เป็นเชิงบวกได้มากขึ้น การเข้าใจการทำงานของสมอง จะช่วยให้เรามีสติ และรับรู้ถึงอารมณ์เชิงลบที่เกิดขึ้นได้เร็วขึ้น และหาวิธีการปรับเปลี่ยนอารมณ์เชิงลบ ให้เป็นอารมณ์เชิงบวกได้ก่อนจะเกิดพฤติกรรม หรือผลลัพธ์ที่ไม่ต้องการการที่เราใช้สมองส่วนคิดให้มากขึ้น จะช่วยให้เราไม่รีบตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เลวร้ายด้วยสมองส่วนอารมณ์ เราจะมีสติ มีการยับยั้งชั่งใจมากขึ้น และเลือกตอบสนองต่อเหตุการณ์ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการ บนศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่ 
   การมีทัศนคติเชิงบวกจึงช่วยให้เราสามารถใช้ศักยภาพในตนเองได้อย่างเต็มที่ เกิดความมั่นใจในตนเอง มีสัมพันธภาพที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน สามารถทำงานเป็นทีมได้ดีและมีแรงจูงใจในการทำงาน เนื่องจากมองเห็นประโยชน์ โอกาสและความท้าทายในงานที่ทำ

วัตถุประสงค์
1. รู้จักและสามารถเลือกเทคนิคในการสร้างและรักษาทัศนคติเชิงบวกที่เหมาะสมกับตนเอง 
2. มองเห็นความสำคัญของการมีทัศนคติเชิงบวก และผลเสียจากการปล่อยให้ตนเองมีทัศนคติเชิงลบโดยไม่รู้ตัว
3. รู้สึกดีกับตนเองและเพื่อนร่วมงาน มีแรงจูงใจและภาคภูมิใจในงานที่ทำ
4. เกิดความเชื่อมั่นในตนเอง มองเห็นศักยภาพของตนเองและเพื่อนร่วมงาน แล้วใช้สิ่งนั้นในการพัฒนางานของตนเองและทีมงาน

กรอบความคิดของหลักสูตร


รายละเอียดของหลักสูตรฝึกอบรม
 ช่วงที่ 1 ความสัมพันธ์การทำงานของสมองกับทัศนคติของตัวเรา
       สมองกับการรับรู้ข้อมูลที่จำกัด การเลือกรับข้อมูลเชิงบวกหรือลบ 
       สมองกับความกลัว ต้นกำเนิดของอารมณ์เชิงลบและพฤติกรรมที่ไม่ต้องการ
       ความสำคัญของการมีทัศนคติเชิงบวก และผลกระทบจากทัศคติเชิงลบต่อชีวิตและการงาน 
 ช่วงที่ 2 สำรวจทัศนคติของตัวเรา และค้นหาหลุมพรางของการเกิดทัศนคติเชิงลบ
       หลุมพรางทางความคิดที่ทำให้เกิดทัศนคติเชิงลบ 
       เทคนิคในการก้ามข้ามหลุมพรางทางความคิดสู่ทัศนคติเชิงบวก 
       สำรวจศักยภาพ การชื่นชมตัวเองและผู้อื่น 
       เทคนิคการสร้างฮอร์โมนแห่งความสุข 
 ช่วงที่ 3 การสร้างทัศนคติที่ดีกับเพื่อนร่วมงานและการทำงานเป็นทีม
       สมองสี่ด้าน การเข้าใจคนแต่ละประเภท 
       การสร้างทัศนคติเชิงบวกกับบุคคลรอบตัว 360 องศา 
       5 ภาษารัก การแสดงความรู้สึกที่ดีและการให้ความสำคัญกับผู้อื่น 
 ช่วงที่ 4 
       การออกแบบวิธีการใช้ประโยชน์จากทัศนคติเชิงบวกในการทำงาน 
       เทคนิคในการรักษาทัศนคติเชิงบวก และหลีกเลี่ยงทัศนคติเชิงลบ 
       การระดมสมองเชิงบวก เพื่อสร้างแนวคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน
       กรณีศึกษา เพื่อการปรับเปลี่ยนทัศนคติในสถานการณ์ที่เลวร้าย 
       บทบาทสมมติ การสวมบทบาทใหม่บนทัศนคติเชิงบวก 
 ช่วงที่ห้า สรุป 
       สรุป
       แลกเปลี่ยนและตอบคำถาม 
       ส่งการบ้านที่จะนำไปเปลี่ยนแปลงตนเอง


ผู้ที่เหมาะสมกับหลักสูตรนี้
ผู้จัดการระดับต้น
หัวหน้างาน
พนักงานระดับปฏิบัติงาน

ออกแบบการเรียนรู้อย่างครบวงจร (6 Step Learning Model) ได้ตามต้องการ
(Blended learning)

Step 1 : การจัดทำวิดีโอออนไลน์ Micro Learning

การเรียนรู้ VDO ด้วยระบบ Learning Management Platform (LMP)

  รับชม

Step 2 : การดำเนินการสอนด้วย Classroom / Virtual Classroom

การเรียนรู้ภายใน Classroom ด้วยบวนการ Adult learning

  รับชม

Step 3 : การให้คำปรึกษาแบบกลุ่มย่อย Group Coaching & Clinic

การให้คำปรึกษาแบบกลุ่มย่อย Group Coaching & Clinic

  รับชม

Step 4 : การพูดคุยเชิงลึกด้วย 1 on 1 Coaching & Mentor

การพูดคุยเชิงลึกด้วย 1:1 Coaching & Mentor

  รับชม

Step 5 : การนำเสนอโครงการปฏิบัติงานจริง (Project Assignment)

การนำเสนอโครงการเพื่อนำไปปฏิบัติในสถานการณ์จริง

  รับชม

Step 6 : การติดตามผลลัพธ์การเรียนรู้ (Follow Up)

การนำความรู้สู่การปฏิบัติที่ชัดเจน และการสรุปผลลัพธ์ของการฝึกอบรม

  รับชม